ยูลสิก!
เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วทั้งฮอลล์เมื่อยูริได้โชว์ทักษะการเต้นของเธอในรายการ'star king'วันนี้ ทุกจังหวะ ทุกท้วงท่าในการเต้นดูสวยงามราวกับมืออาชีพจริงๆ และไม่มีผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย เว้นเสียแต่ตอนสุดท้ายของการเต้นที่ยูริเสียท่าให้คู่เต้นของเธอ ‘จูบแก้ม’ เธอนั่นแหละ.....
แม้การเต้นของยูริจะดูตรึงตา แต่การที่ยูริโดนจูบแก้มมันก็ยังคงตรึงใจคนบ้างคนได้เป็นอย่างดี และถึงแม้ว่าทุกคนจะเห็นเธอยิ้มอย่างกับว่าเรื่องที่ยูริโดนจูบแก้มมันเป็นเรื่องตลกขบขัน หากแต่ความเป็นจริงแล้ว มันเป็นรอยยิ้มที่เธอเสแสร้งแกล้งทำมันมากที่สุดในชีวิตของเธอเลย......
ก๊อก ก๊อก ก๊อก......
เสียงเคาะประตูห้องดังอย่างต่อเนื่อง หากแต่คนในห้องก็ยังไม่ยอมเปิดประตูออกมาเสียที ทำเอาคนเคาะประตูห้องร้อนใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เธอรู้ตัวว่าววันนี้เธอทำผิดพลาดมากมายแค่ไหน ที่เธอไม่ระวังตัวจนโดนไอ้ฝรั่งนั่น ‘จูบแก้ม’ เธอไปเสียอย่างนั้น ถึงแม้รอยยิ้มในตอนนั้นของเธอมันจะเป็นรอยยิ้มที่ใครๆต่างมองดูแล้วลงความเห็นว่าเธอเขิน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอเองรู้ดีที่สุดว่ามันเป็นรอยยิ้มที่บ่งบอกว่าเธอ ‘กลัว’ มากแค่ไหน
กลัวว่าอีกคนจะโกรธเธอ..... และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
ซอฮยอนเดินเข้ามาใกล้ เธอยื่นหน้าข้ามไหล่ยูริไปมองที่ประตูห้อง ในขณะที่ยูริหันกลับมามองน้องเล็กด้วยใบหน้าที่ดูไม่ดีเอาเสียเลย
“พี่สิก้ายังไม่ยอมเปิดประตูห้องอีกหรอค่ะ” ยูริทำเพียงพยักหน้าลงเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าตัวจะหันกลับไปเคาะประตูห้องต่อ และคราวนี้ก็ได้ผล เมื่อประตูห้องที่ปิดสนิทมาเกือบสองชั่วโมงค่อยๆแง้มเปิดออกมาจนเธอเห็นใบหน้าของคนด้านในที่โผล่ออกมาเพียงเล็กน้อยจ้องมองเธออย่างไม่วางตา และยังเผื่อแผ่สายตาไปจ้องมองน้องเล็กของวงอย่างซอฮยอนให้เจ้าตัวสะดุ้งโหย่งเดินหนีรังสีแปลกๆจากสายตาเจสสิก้าแทบไม่ทัน
ก่อนที่ร่างกายของยูริจะปลิวหายเข้าไปในตัวห้องจากการโดนกระชากดึงแขนของคนในห้องอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้สมาชิกที่เหลือที่มองดูยูริอย่างลุ้นๆตั้งแต่สองชั่วโมงก่อนได้แต่กลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอกันเป็นทิวแถว
“โชคดีนะค่ะพี่ยูล” ยุนอาเปรยออกมาเสียงแผ่วแต่นั่นก็ดังพอที่จะทำให้ทิฟฟานี่ที่ยืนอยู่ข้างๆพยักหน้าลงเล็กน้อยอย่างเห็นด้วยในคำพูดของน้องรอง
ยูริจ้องมองเจสสิก้านิ่งอย่างกล้าๆกลัวๆ เธอสังเกตอาการของคนตรงหน้าด้วยแววตาหวาดๆ ไม่รู้ว่าถ้าเธอพูดอะไรไม่เข้าหูเธอจะโดนสิก้าเอ็ฟเฟ็กลงใส่กลางหัวเธอหรือเปล่า ก็เจสสิก้าในตอนนี้ ดูจะโกรธเธอมากๆถ้าสังเกตดูจากแววตาของเจ้าตัว แต่สีหน้าของเจ้าตัวกับเรียบเฉยเสียจนเธอเองก็คาดเดาไม่ถูกว่าคนตรงหน้าโกรธเธอมากแค่ไหนกันแน่
เมื่อยูริเอาแต่เงียบ เจสสิก้าก็เริ่มอารมณ์เสียหนักกว่าเก่า เธอยกมือขึ้นกอดอกแน่น สายตามองตรงไปยัง ‘คนรัก’ อย่างจะเอาเรื่อง
“มีเรื่องจะพูดไม่ใช่หรอ ถ้าไม่มีก็ออกไปเลยนะ!” เจสสิก้าพูดเสียงเรียบ แต่นั่นก็ทำเอายูริกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ริมฝีปากอิ่มค่อยๆขยับพูดช้าๆ
“เจสโกรธยูลหรอ....” ความเงียบยังคงเข้าปกคลุมไปทั่วห้อง เจสสิก้าไม่ได้พูดตอบอะไรกลับมาเลยแม้แต่น้อย เธอยังคงยืนกอดอกมองหน้ายูริที่เริ่มเสียลงมากกว่าเดิมมากนัก
“ยูลไม่ได้ตั้งใจให้ไอ้นั่นมันจูบแก้มยูลนะ เจสก็รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ” สิ้นสุดคำ ร่างกายเธอก็ปลิวไปตามแรงกระชากดึงของเจสสิก้า ริมฝีปากอิ่มถูกครอบครองโดยเรียวปากของอีกคนอย่างที่เธอเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว
เจสสิก้าบดจูบยูริแรงๆตามอารมณ์โกรธของเธอ จนเรียวปากอิ่มของยูริแดงก่ำจากการกระทำที่รุนแรง ดวงตาของยูริปรือลงเล็กน้อย เธอดันไหล่เจสสิก้าออกจากเธอแผ่วเบา
“แล้วทำไมตอนนี้ปฏิเสธเจสได้ละควอน ยูริ!” ยูรินิ่งอึ้งไปเพียงชั่วครู่ ดวงตาคู่สวยหรี่ลงเล็กน้อยก่อนที่เจ้าตัวจะสาวเท้าเดินเข้าไปหาอีกคน ในขณะที่เจสสิก้าถอยรนไปด้านหลังมากขึ้นทุกทีๆ
“เจสก็รู้นิค่ะ ว่าเราออกรายการโทรทัศน์อยู่ ยูลปฏิเสธเค้าไม่ได้ แถมยูลเองก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยในตอนนั้น และอีกอย่าง ยูลก็ไม่ได้ไปจูบแก้มเขาทั้งๆที่เขายื่นแก้มมาให้ยูลนะ” เจสสิก้าเหลือบตามองไปด้านข้างเล็กน้อย ในขณะที่เท้าก็ยังคงถอยรนหนียูริที่เดินเข้ามาประชิดตัวเธอมากขึ้นทุกทีๆ
“ก็ยูลยิ้มเขินที่โดนเค้าจูบแก้มนี่” ยูริยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำที่เจสสิก้าพูด
“ ‘หึง’ หรอคะที่รัก.... งั้น ควอน ยูริ คนนี้จะทำ จอง ซูยอน รู้ว่า ‘รัก’ มากแค่ไหน....ดีไหม?” เจสสิก้าตาโตขึ้นมาทันที เท้าเรียวสะดุดเข้ากับขอบเตียงจนล้มลงไปบนที่นอน ในขณะที่ยูริรีบตรงปรี่ขึ้นไปคร่อมทับบนตัวเจสสิก้าอย่างรวดเร็ว
เจสสิก้าใช้มือดันตัวยูริที่กำลังโน้นใบหน้าเข้ามาหาตัวเธอออก ยูริรีบคว้ามือของเจสสิก้าเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้างแล้วกดลงกับเตียง
“เจสจะได้รู้ซักทีว่ายูลรักเจสคนเดียว และไม่เคยหวั่นไหวกับใครนอกจากผู้หญิงคนนี้” สิ้นสุดคำใบหน้าคมก็เลื่อนลงต่ำจนริมฝีปากเกือบจะแนบสนิท เจสสิก้าหลับตาแน่นทันที่ ยูริเห็นดังนั้นก็ยกยิ้มขึ้นมุมปาก ก่อนที่เจ้าตัวจะเลื่อนริมฝีปากลงมาต่ำจากเรียวปากสวย
.
.(เซ็นเซอร์)
.
.
เสียงภายในห้องดังเล็ดลอดออกมานอกบานประตู บทรักครั้งแรก ครั้งที่ สอง และครั้งที่สามจบลงไปแล้ว บทรักบทใหม่เริ่มขึ้นมาอีกครั้ง ในขณะที่คนแอบฟังอยู่ที่ประตูห้องอย่างแทยอน ซูยอง และยุนอาหน้าแดงก่ำไปเป็นแถบๆ เรียกความสนใจจากทิฟฟานี่และซันนี่ได้เป็นอย่างดี
“นี่ แทงกู หน้าแดงทำไมอ่ะ” ซันนี่ถามด้วยความสงสัย เธอเลื่อนสายตาไปมองทั้งสามคนที่สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้
ซูยองรีบดันไหล่ซันนี่เอาไว้ทันที ก่อนที่ตัวเธอเองจะเดินออกไปจากบริเวณประตูห้อง และลากแขนซันนี่ไปนั่งอยู่ที่โซฟาหน้าโทรทัศน์
“ทำตัวน่าสงสัยจัง? ในนั้นเกิดอะไรขึ้นหรอ หรือว่ายูริโดนสิก้าฆ่าตายไปแล้ว” ซันนี่พูดด้วยท่าทีตกใจ ซอฮยอนหันไปมองที่ประตูทันที
“สงสารพี่ยูลจัง” ทิฟฟานี่ย่นคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยเธอหันกลับไปมองดูแทยอนกับยุนอา ทั้งคู่ยังคงเกาะติดประตูห้องแน่น แถมยังหน้าแดงก่ำอย่างต่อเนื่อง
“พี่ว่าควรจะสงสารสิก้ามากกว่า เข้าไปซะนานขนาดนั้น” ทิฟฟานี่เปรยเสียงแผ่ว ซอฮยอนทำหน้างง ในขณะที่ซันนี่อ้าปากค้างทันที
“นั่นซิ.....” ซันนี่เปรยขึ้นมาเสียงแผ่ว ทิฟฟานี่ที่ยืนกอดอกมองดูหัวหน้าวงกับน้องรองของวงที่ยังคงเกาะประตูห้องแน่นก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ เธอเดินเข้าไปลากตัวทั้งสองคนออกมาทันที
“แล้วจะไปแอบฟังเขาทำไมละ ปล่อยให้เขาเคลียร์ๆกันเองเถอะ” แทยอนหันมาจ้องมองทิฟฟานี่นิ่ง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาบนเรียวปากทันที
“ฟานี่จ๋า.....เราก็เข้านอนกันเถอะนะ” พูดจบก็ลากแขนทิฟฟานี่ปลิวติดมือเข้าห้องของเจ้าตัวไปเลย ยุนอามองตามไปด้วยความอิจฉา พอหันกลับมามองซอฮยอน เจ้าตัวก็สะบัดหน้าหนีเสียอย่างนั้น
ซูยองขยับตัวเข้าไปนั่งเบียดติดกับซันนี่อีก แต่ซันนี่กลับขยับตัวหนีเธอไปจนสุดโซฟาตัวยาว ฮโยยอนมองเพื่อนในวงแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ทันที
ดูท่าวันนี้เธอคงตอนนอนคนเดียว แถมยังมีเสียงที่บ่งบอกว่าเธอช่าง ‘ไร้คู่’ เสียจริงๆดังขึ้นมาให้เธอได้อิจฉาเล่นแน่ๆ คิดได้ดังนั้น เจ้าตัวก็รีบเข้าห้องนอนแต่หัววัน ก่อนที่เธอจะนอนไม่หลับเพราะเสียงนั่นเสียก่อน....
................................................................
อันนยองฮาเซโย......
ซึนกีมาแล้วค่ะ...มาไวไปไว เพราะไม่รู้จะพูดยังไงดี
เอาเป็นว่า ขอสูบเลือดไปละน้า~
ปล.อย่าลืมคอมเม้นให้ด้วยล่ะ!
ปลล.มาแก้ไขที่คอมเม้นไม่ได้ คอมเม้นได้แล้วนะ ^^ **(คอมเม้นย้อนหลังให้ก็ดีค่ะ ^^)
BY:ฮันซึนกี
ความคิดเห็น